ผลสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์โดยสำนักข่าวรอยเตอร์บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยระยะสั้นและไม่รุนแรงในปีหน้า โดยคาดการณ์กันเป็นเอกฉันท์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.50% ในวันที่ 14 ธ.ค.
ทั้งนี้ เฟดมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในช่วงต้นปีใหม่ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงขยายตัวสูงเกินกรอบเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 2% แม้ว่านักเศรษฐศาสตร์จะมองว่ามีโอกาสราว 60% ที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2566
หลังจากที่เฟดได้ปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 0.75% ตลอดการประชุมทั้ง 4 ครั้งที่ผ่านมา นักเศรษฐศาสตร์ทั้งหมด 84 คนจากการสำรวจความคิดเห็นในวันที่ 2-8 ธ.ค.คาดว่า ในการประชุมที่จะถึงนี้ เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแค่ 0.50% แตะที่ระดับ 4.25%-4.50%
นายซาล กัวเทียรี นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากบีเอ็มโอ แคปิตอล มาร์เก็ตส์ (BMO Capital Markets) กล่าวว่า "เว้นแต่ว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงอย่างรวดเร็ว เศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีแนวโน้มจะเผชิญกับปัญหาบางประการ แม้ว่าปัญหาอาจจะมาช้ากว่าที่คาดไว้ก็ตาม ข่าวดีก็คือการชะลอตัวดังกล่าวน่าจะบรรเทาได้ด้วยการออมเงินเพิ่มเติม"