หุ้นเทสลาร่วงหนัก หลังส่งมอบรถยนต์ต่ำกว่าเป้า

หุ้นเทสลา บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ ปิดลบ 12% ในการซื้อขายวันอังคาร (3 ม.ค.) และทรุดตัวลงอีก 1.02% หลังปิดตลาด เพียงหนึ่งวันหลังเทสลาเปิดเผยตัวเลขการผลิตไตรมาส 4/2565 และตัวเลขการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับปี 2565 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้ ทั้งยังต่ำกว่าเป้าหมายของบริษัทอีกด้วย

ทั้งนี้ เทสลาส่งมอบรถยนต์จำนวน 405,278 คันในไตรมาส 4/2565 ซึ่งแม้ว่าเพิ่มขึ้นจากระดับ 308,600 คันในช่วงเดียวกันของปี 2564 แต่ก็ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 409,000-433,000 คัน ขณะที่ยอดส่งมอบตลอดทั้งปี 2564 อยู่ที่ 1.31 ล้านคัน โดยเป็นระดับสูงเป็นประวัติการณ์สำหรับเทสลาและเติบโต 40% เมื่อเทียบกับปี 2564 นอกจากนี้ หุ้นเทสลายังได้รับผลกระทบจากการที่เกาหลีใต้สั่งปรับบริษัทเป็นจำนวนเงิน 2.85 พันล้านวอน (2.2 ล้านดอลลาร์) เนื่องจากเทสลาโฆษณาเกินจริงเกี่ยวกับระยะการขับขี่ของรถยนต์จากการชาร์จเพียงครั้งเดียว โดยไม่ได้แจ้งให้ผู้ซื้อทราบว่ารถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของเทสลาจะมีระยะการขับขี่สั้นกว่าปกติในสภาพอากาศหนาวเย็น โดยมีระยะสั้นลงถึง 50.5% เมื่อเทียบกับที่บริษัทโฆษณา หุ้นเทสลาเผชิญแรงเทขายตลอดทั้งปี 2565 ส่งผลให้นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเทสลาออกมาบอกกับบรรดาพนักงานของตนว่า "อย่าหวั่นไหวมากเกินไปกับความบ้าคลั่งในตลาดหุ้น" นายมัสก์กล่าวอ้างว่า สาเหตุที่ราคาหุ้นเทสลาลดลงนั้นส่วนหนึ่งเป็นผลจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น แต่นักวิจารณ์มองว่า สาเหตุหลักเกิดจากการที่นายมัสก์เข้าซื้อกิจการทวิตเตอร์ผ่านข้อตกลง 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ นักวิเคราะห์วอลล์สตรีทบางรายมองว่า การส่งมอบรถยนต์ต่ำกว่าที่คาดการณ์ของเทสลาบ่งชี้ว่าบริษัทกำลังเผชิญปัญหา หลังเทสลาเพิ่งประกาศลดราคารถยนต์ในจีนและสหรัฐ แต่นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าเป็นโอกาสในการเข้าซื้อหุ้นราคาถูก