แอปเปิ้ลและเทสลากำลังเผชิญกับอุปสรรคสำคัญหลายประการในจีน ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีทั้งสองแห่งนี้
ทั้งนี้ สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า หุ้นของเทสลา ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ ดิ่งลง 12% เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (3 ม.ค.) หลังบริษัทส่งมอบรถยนต์ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ในขณะที่หุ้นของแอปเปิ้ลร่วงลงกว่า 3% จากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ iPhone ในไตรมาสที่สิ้นสุดในเดือนธ.ค. 2565
ปัญหาหลากหลายประการในจีนมีส่วนฉุดให้หุ้นเทสลาและแอปเปิ้ลปรับตัวลงในครั้งนี้ โดยจีนคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 17% ของยอดขายของแอปเปิ้ลและคิดเป็นสัดส่วน 23% ของรายได้ของเทสลา ดังนั้น จีนจึงถือเป็นตลาดสำคัญสำหรับบริษัททั้งสองแห่ง
นายแดเนียล ไอฟ์ส นักวิเคราะห์หุ้นอาวุโสจากบริษัทเวดบุช ซีเคียวริตี้ กล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า "จีนเสมือนปอดและหัวใจทั้งในด้านอุปสงค์และอุปทานสำหรับแอปเปิ้ลและเทสลา โดยสิ่งที่บรรดานักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทวิตกกังวลมากที่สุดคือ เศรษฐกิจจีน และผู้บริโภคควบคุมการใช้จ่าย ซึ่งถือเป็นสัญญาณอันตรายสำหรับแอปเปิ้ลและเทสลา"
"สิ่งที่สร้างความวิตกกังวลในปี 2565 คือปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานและปัญหาที่เกี่ยวกับนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ส่วนสิ่งที่น่ากังวลในปี 2566 คือปัญหาด้านอุปสงค์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งแอปเปิ้ลและเทสลาที่ต้องพึ่งพาผู้บริโภคชาวจีนเป็นอย่างมาก"