สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) รายงานในวันนี้ (17 ก.พ.) ว่า ยอดค้าปลีกของอังกฤษเพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบรายเดือนในเดือนม.ค. สวนทางคาดการณ์นักวิเคราะห์ แต่ในภาพรวมยังคงแสดงให้เห็นถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอจากผู้บริโภคซึ่งได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อ
นักเศรษฐศาสตร์ในโพลสำรวจของรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ยอดค้าปลีกของอังกฤษจะลดลง 0.3% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบกับเดือนธ.ค 2565 ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและยูโร หลังจากมีการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว
หากเทียบเป็นรายปี ยอดค้าปลีกเดือนม.ค.จะร่วงลง 5.1% ขณะที่ยอดค้าปลีกในเดือนธ.ค 2565 ร่วงลงมากกว่าที่รายงานก่อนหน้านี้ โดยลดลง 1.2% จากเดือนพ.ย. 2565 ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ไว้ที่ 1.0%
นายดาร์เรน มอร์แกน ผู้อำนวยการฝ่ายสถิติทางเศรษฐกิจของ ONS กล่าวว่า "หลังจากที่ยอดค้าปลีกร่วงลงอย่างมากในเดือนธ.ค. 2565 ก็มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนม.ค. แม้ว่าแนวโน้มทั่วไปจะยังคงลดลงก็ตาม"
นายมอร์แกนเผยอีกว่า ยอดขายเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น สะท้อนถึงการปรับตัวลงของราคา และการลดราคาช่วยกระตุ้นยอดขายสำหรับผู้ค้าปลีกออนไลน์ รวมถึงร้านขายอัญมณี เครื่องสำอาง ร้านขายพรมและเฟอร์นิเจอร์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีนี้ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก GfK ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยตลาดที่เผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้ว แสดงให้เห็นว่าความเชื่อมั่นของภาคครัวเรือนซบเซาลงมากเกือบแตะจุดที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ 2517 เป็นอย่างน้อย