กระทรวงฝ่ายกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่นรายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารสด พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 41 ปีในเดือนม.ค. เนื่องจากบริษัทเอกชนได้ผลักภาระต้นทุนที่สูงขึ้นไปให้กับผู้บริโภค โดยข้อมูลดังกล่าวอาจกดดันให้กับธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยุตินโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ข้อมูลดังกล่าวย้ำให้เห็นถึงภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ BOJ ที่ต้องรับมือกับราคาเชื้อเพลิงและราคาสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันที่พุ่งทะยานขึ้นจนส่งผลกระทบต่อภาคครัวเรือน โดยมีครัวเรือนจำนวนมากที่ไม่ได้รับการขึ้นค่าแรงมากพอที่จะชดเชยค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนี Core CPI ของญี่ปุ่นซึ่งไม่รวมราคาอาหารสดที่มีความผันผวน แต่รวมราคาพลังงาน พุ่งขึ้น 4.2% ในเดือนม.ค.เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 4% ในเดือนธ.ค. 2565 สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด และเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2524
ทั้งนี้ Core CPI ของญี่ปุ่นอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของ BOJ เป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน ส่วนใหญ่มาจากการที่ราคาเชื้อเพลิงและวัตถุดิบปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายคาซูโอะ อุเอดะ ว่าที่ผู้ว่าการ BOJ ต้องเผชิญกับความท้าทายในการคงนโยบายการควบคุมอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของ BOJ ขณะที่ตลาดกังวลว่าเงินเฟ้อที่สูงอาจจะบีบให้ BOJ ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย