สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) รายงานว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีน ปรับตัวลง 22.9% ในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. เมื่อเทียบรายปี ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมยังคงดิ้นรนหาทางออกจากภาวะตกต่ำอันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
รายงานระบุว่าภาวะหดตัวยังคงดำเนินต่อไป หลังจากที่กำไรภาคอุตสาหกรรมร่วงลง 4.0% ในปี 2565 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาคอุตสาหกรรมโดยรวมเริ่มต้นปีอย่างซบเซา
ทั้งนี้ ข้อมูลกำไรภาคอุตสาหกรรมได้มาจากการสำรวจบริษัทขนาดใหญ่ในภาคอุตสาหกรรมที่มีรายได้ต่อปีอย่างน้อย 20 ล้านหยวน (ประมาณ 2.91 ล้านดอลลาร์)
ข้อมูลล่าสุดนี้ เมื่อประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจจีนตัวอื่น ๆ ได้แสดงให้เห็นว่าเส้นทางสู่การฟื้นตัวจากสถานการณ์โรคระบาดนานสามปีนั้นไม่ค่อยราบรื่นนัก โดยเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ ทางการจีนระบุว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.-ก.พ. ปรับตัวขึ้น 2.4% ส่วนยอดค้าปลีกก็กลับมาเติบโตอีกครั้ง แต่การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ยังคงหดตัวอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัฐบาลเพื่อฟื้นฟูตลาดที่อยู่อาศัยก็ตาม
ปัจจุบัน จีนกำลังพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจและกำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ไว้ที่ราว 5% ในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติเมื่อช่วงต้นเดือนนี้
นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ประกาศปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) เมื่อช่วงกลางเดือนนี้ ซึ่งถือเป็นการปรับลดครั้งแรกของปีนี้เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบธนาคาร ลดต้นทุนในการระดมทุนของภาคธุรกิจ รวมทั้งกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ