สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมืองเซี่ยงไฮ้ของจีนมีจำนวนประชากรลดลงในปี 2565 ซึ่งนับเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 5 ปี หลังจากทางการดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด ขณะที่แรงงานอพยพมากกว่า 250,000 คนออกจากเมือง
สำนักงานสถิติของเซี่ยงไฮ้เปิดเผยข้อมูลเมื่อวานนี้ (28 มี.ค.) ว่า เซี่ยงไฮ้มีจำนวนประชากรประมาณ 24.76 ล้านคนในปีที่ผ่านมา ลดลงจากระดับของปี 2564 ที่ 24.89 ล้านคน
รายงานระบุว่า ตัวเลขดังกล่าวของเซี่ยงไฮ้มีขึ้นหลังจากที่กรุงปักกิ่งประกาศจำนวนประชากรลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2546
ประชากรที่ลดลงทั้ง 2 เมืองสอดคล้องกับแนวโน้มที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ หลังจำนวนประชากรของจีนลดลงเป็นครั้งแรกในปีที่ผ่านมาในรอบ 6 ทศวรรษ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ การเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และทัศนคติต่อการเลี้ยงดูครอบครัวที่เปลี่ยนไป
ขณะเดียวกัน ผลการสำรวจของสำนักงานสถิติของเซี่ยงไฮ้เผยว่า ประชากรประมาณ 60% ที่อาศัยอยู่ในเซี่ยงไฮ้กล่าวว่า พวกเขาต้องการลูกคนเดียวหรือไม่ต้องการเลย โดยมากกว่า 28% ของชาวเซี่ยงไฮ้ที่ตอบแบบสำรวจกล่าวว่า พวกเขาไม่ได้วางแผนที่จะมีลูกเพิ่มเนื่องจากค่าดูแลลูกที่สูง
ทั้งนี้ อัตราการเกิดของเซี่ยงไฮ้ลดลงแตะระดับ 4.4 คนต่อประชากร 1,000 คนจากระดับ 4.7 คนในปีก่อนหน้า ขณะที่อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นที่ 6.0 คนต่อประชากร 1,000 คนจากระดับ 5.6 คนเนื่องจากประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว