สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมี.ค.ของจีนอยู่ที่ระดับ 51.9 ลดลงจากระดับ 52.6 ในเดือนก.พ. โดยข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าความหวังที่เศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้นอาจลดน้อยลง ท่ามกลางอุปสงค์ทั่วโลกที่อ่อนแรงลง และตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่ยังคงชะลอตัว
อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI อยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนยังคงมีการขยายตัว นอกจากนี้ ดัชนียังอยู่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 51.5
ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเดือนมี.ค.อยู่ที่ระดับ 58.2 เพิ่มขึ้นจากระดับ 56.3 ในเดือนก.พ. โดยดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการของจีนยังคงมีการขยายตัว
จีนซึ่งมีระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกได้กำหนดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2566 ไว้ที่ประมาณ 5% หลังจากเศรษฐกิจขยายตัวเพียง 3% ในปี 2565 ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวต่ำที่สุดในรอบเกือบ 50 ปี
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนเป้าหมายดังกล่าว ธนาคารกลางจีนได้ปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งแรกของปีนี้เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบธนาคาร และลดต้นทุนในการระดมทุนของภาคธุรกิจ รวมทั้งกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยธนาคารกลางจีนปรับลด RRR ในอัตรา 0.25% สำหรับสถาบันการเงินทุกแห่ง โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา