องค์การวิสาหกิจของสิงคโปร์ (Enterprise Singapore) เปิดเผยว่า ยอดส่งออกสินค้าทั่วไปที่ผลิตในประเทศยกเว้นน้ำมัน (Nodx) เดือนมี.ค. ปรับตัวลดลง 8.3% เมื่อเทียบรายปี แม้จะน้อยกว่าเดือนก่อนหน้าและน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้
รายงานระบุว่า นักเศรษฐศาสตร์จากผลการสำรวจของรอยเตอร์คาดการณ์ว่ายอดส่งออกเดือนมี.ค.จะร่วงลง 20.8% หลังจากที่ปรับตัวลดลง 15.8% ในเดือนก.พ.
ยอดส่งออกของสิงคโปร์ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 เมื่อเทียบเป็นรายปี ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ
หากเทียบเป็นรายเดือน ยอดส่งออกเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 18.4% ซึ่งดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มเพียง 1.7%
กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ (MTI) เปิดเผยเมื่อวันที่ 14 เม.ย.ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัวเพียง 0.1% ในไตรมาส 1/2566 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงอย่างมากจากไตรมาส 4/2565 ที่มีการขยายตัว 2.1%
ทั้งนี้ ข้อมูล GDP ที่อ่อนแอส่งผลให้ธนาคารกลางสิงคโปร์มีมติคงนโยบายการเงินในวันดังกล่าว ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะเดินหน้าใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงิน
โดยปกติแล้ว ธนาคารกลางสิงคโปร์จะดำเนินนโยบายการเงินผ่านการกำหนดกรอบอัตราแลกเปลี่ยน 3 ด้านด้วยกันซึ่งได้แก่ ความชัน (Slope), ค่ากลาง (Mid-Point) และความกว้าง (Width) ของกรอบอัตราแลกเปลี่ยนที่กำหนด (Policy Band) หรือที่เรียกว่า Nominal Effective Exchange Rate (NEER)
ส่วนการดำเนินการในวันที่ 14 เม.ย.นั้น ธนาคารกลางสิงคโปร์ได้ตัดสินใจคงความชัน, ค่ากลาง และความกว้างของกรอบอัตราแลกเปลี่ยนเอาไว้ที่ระดับเดิม