สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียรายงานในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีกในไตรมาส 1/2566 ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นและค่าครองชีพในระดับสูงนั้น กำลังส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค
ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกในไตรมาส 1 ลดลง 0.6% สู่ระดับ 9.617 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (6.523 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าอาจลดลง 0.6% และมีแนวโน้มที่จะฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจ
รายงานของสำนักงานสถิติยังระบุว่า ราคาค้าปลีกขยายตัวในอัตราต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2564 ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เชื่อมั่นว่า นโยบายคุมเข้มด้านการเงินเชิงรุกกำลังเริ่มที่จะส่งผลให้อุปสงค์ภายในประเทศชะลอตัวลง
RBA ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 3.85% ในการประชุมเมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก เนื่องจากมองว่าอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 7% ยังนับว่าสูงเกินไป
ทั้งนี้ ออสเตรเลียเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค อยู่ที่ระดับ 7% ในไตรมาส 1/2566 ซึ่งแม้ว่าชะลอตัวลงจากระดับ 7.8% ของช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว แต่ก็สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 6.9%