สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีกไม่มีการขยายตัวในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.ที่ปรับตัวขึ้น 0.4% และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่ายอดค้าปลีกเดือนเม.ย.อาจเพิ่มขึ้น 0.2% เนื่องจากต้นทุนค่าครองชีพที่สูงขึ้นและอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายในการซื้ออาหารและการรับประทานอาหารนอกบ้าน
เมื่อเทียบเป็นรายปี ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.ของออสเตรเลียปรับตัวขึ้น 4.2% สู่ระดับ 3.526 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (2.392 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนมี.ค.ที่มีการขยายตัว 5.4%
นายเบน ดอร์เบอร์ หัวหน้าฝ่ายสถิติค้าปลีกของ ABS กล่าวว่า การใช้จ่ายด้านค้าปลีกชะลอตัวลงนับตั้งต้นปี และชะลอลงต่อเนื่องในเดือนเม.ย.
"ยอดค้าปลีกอ่อนแอลงในช่วง 6 เดือนที่แล้ว เนื่องจากผู้บริโภคลดการใช้จ่ายในสินค้าฟุ่มเฟือย อันเป็นผลมาจากต้นทุนค่าครองชีพที่สูงขึ้นและอัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้น โดยการใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัวลงอีกในเดือนเม.ย. อย่างไรก็ดี ยอดค้าปลีกโดยรวมได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในการซื้อเสื้อผ้าช่วงฤดูหนาว เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นขึ้นทั่วประเทศ" นายดอร์เบอร์กล่าว
ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกเสื้อผ้า รองเท้า และของใช้ส่วนตัว เพิ่มขึ้น 1.9% และยอดขายในห้างสรรพสินค้าปรับตัวขึ้น 1.5% ในเดือนเม.ย.