สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า เศรษฐกิจอินเดียจะเติบโตราว 6% ในปีงบประมาณนี้ โดยมีการลงทุนจากภาคเอกชนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่การเติบโตที่ชะลอลงและอัตราเงินเฟ้อสูงนั้นเป็นความเสี่ยงใหญ่ที่สุดต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของอินเดีย
นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ขณะที่การเติบโตของอินเดียจะเร็วกว่าบรรดาประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อื่น ๆ นั้น อินเดียจำเป็นต้องอาศัยการเติบโตและการลงทุนที่สูงขึ้น เพื่อให้มีตำแหน่งงานเพียงพอต่อประชากรหลายล้านคนที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงานในแต่ละปี
ผลสำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ 56 คนเมื่อวันที่ 16-25 พ.ค.คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะขยายตัว 5.0% เมื่อเทียบรายปีในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค. เพิ่มขึ้นจาก 4.4% ในไตรมาสก่อน 4/2565
ค่ามัธยฐานของผลสำรวจบ่งชี้ว่า การเติบโตของเศรษฐกิจคาดว่าจะอยู่ที่ 6.0% ในปีงบประมาณนี้ และจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.4% ในปี 2567-2568
แนวโน้มเศรษฐกิจโลกในระดับปานกลางและความเสี่ยงสูงที่ฝนจะตกต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอินเดียปีนี้ ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อผลผลิตทางการเกษตรและปริมาณอาหารนั้นเป็นตัวบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจอินเดียอาจเติบโตต่ำกว่าที่คาดไว้ แต่ยังคงส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น โดยนักเศรษฐศาสตร์ 22 จาก 38 คนจากผลสำรวจระบุว่า ปัจจัยดังกล่าวเป็นความเสี่ยงใหญ่ที่สุดที่ต้องเผชิญในปีนี้
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อได้รับการคาดการณ์ว่า จะอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 5.1% และ 4.8% ในปีงบประมาณนี้และปีงบประมาณหน้าตามลำดับ ซึ่งสูงกว่ากรอบเป้าหมายระยะกลางที่ 4% ซึ่งธนาคารกลางอินเดียกำหนดไว้ และแสดงให้เห็นว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยยังไม่น่าจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ หลังจากที่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตลอด 1 ปี