สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกอังกฤษเดือนเม.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาด และยอดขายในช่วง 3 เดือนจนถึงเดือนเม.ย. ขยายตัวมากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2564 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในการใช้จ่ายของผู้บริโภค แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะพุ่งสูงขึ้นก็ตาม
ONS ระบุว่า เมื่อเทียบรายเดือน ยอดค้าปลีกอังกฤษในเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 0.5% สูงกว่าระดับของเดือนมี.ค.ที่ลดลง 1.2% เนื่องจากเหตุฝนตกชุกเป็นพิเศษส่งผลให้ประชาชนไม่ออกจากบ้านมาซื้อของ นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังสูงกว่าโพลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่คาดการณ์ว่ายอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย.อีกด้วย
ในช่วงเดือนก.พ.-เม.ย. ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.8% จากช่วงสามเดือนก่อนหน้า นับเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ช่วง 3 เดือนจนถึงเดือนส.ค. 2564
เมื่อเทียบเป็นรายปี ยอดค้าปลีกอังกฤษในเดือนเม.ย.ลดลง 3.0% สูงกว่าระดับของเดือนมี.ค.ที่ลดลง 3.9% แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.8%
นายแกรนท์ ฟิตซ์เนอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ONS กล่าวว่า "ยอดค้าปลีกขยายตัว โดยดีดตัวขึ้นบางส่วนจากเดือนมี.ค.ที่มีสภาพอากาศย่ำแย่ โดยผู้ค้าอัญมณี, ร้านค้าปลีกอุปกรณ์กีฬา และห้างสรรพสินค้าล้วนมียอดขายดีขึ้นในเดือนนี้"
"แม้ราคาอาหารจะยังคงพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง ซูเปอร์มาร์เก็ตก็ฟื้นตัวจากระดับที่ลดลงในเดือนมี.ค. อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ถูกกลบไปบางส่วนจากการลดลงของยอดขายน้ำมันเชื้อเพลิง แม้ว่าราคาเชื้อเพลิงจะลดลงเช่นกัน" นายฟิตซ์เนอร์ระบุ
อนึ่ง เงินเฟ้อของอังกฤษแตะระดับ 8.7% ในเดือนเม.ย. ซึ่งสูงกว่าระดับเป้าหมายถึง 4 เท่า