สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ (8 มิ.ย.) ว่า ออสเตรเลียมียอดเกินดุลการค้า 1.12 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.37 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผลมาจากการลดลงของยอดส่งออกแร่เหล็กและโลหะประเภทอื่น ๆ ในขณะที่การนำเข้าปรับตัวขึ้น
ทั้งนี้ ยอดส่งออกโดยรวมในลดลง 5% ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 2% ในเดือนเม.ย.
ข้อมูลของ ABS ระบุว่า ยอดส่งออกแร่เหล็กและโลหะประเภทอื่น ๆ ทรุดตัวลง 10.4% ในเดือนเม.ย. ขณะที่ยอดส่งออกเชื้อเพลิงซึ่งรวมถึงก๊าซธรรมชาติเหลว ปรับตัวขึ้น 1.9% ในเดือนเม.ย.
อย่างไรก็ดี ออสเตรเลียเกินดุลการค้าติดต่อกันเป็นเวลานานนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2561 โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกแร่เหล็กและก๊าซธรรมชาติให้กับกลุ่มประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตขึ้นในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งความแข็งแกร่งของการส่งออกเป็นปัจจัยหนุนสถานะการคลังของออสเตรเลียให้แข็งแกร่งขึ้น และมีแนวโน้มว่า งบประมาณของรัฐบาลจะกลับมาเกินดุลได้เป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี
อุปสงค์สินค้าของออสเตรเลียได้รับปัจจัยหนุนจากคำสั่งซื้อจากจีนซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ โดยเฉพาะสินค้าจำพวกแร่เหล็กและถ่านหิน ส่วนการค้าสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่น ๆ เช่น ข้าวบาร์เลย์และไวน์ที่เคยถูกแบนหลังจากเกิดข้อพิพาททางการเมืองระหว่างจีนและแคนาดานั้น คาดว่าจะกลับสู่ภาวะปกติอีกครั้งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น