IMF ระบุว่า ข้อตกลงระดับเจ้าหน้าที่ดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากฝ่ายบริหารของ IMF โดยคาดว่าจะมีการพิจารณาข้อตกลงดังกล่าวช่วงกลางเดือนก.ค. ทั้งนี้ ปากีสถานนับเป็นหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของ IMF โดยได้รับเงินช่วยเหลือเกือบ 24 ครั้งนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1950
IMF ระบุว่า เงินกู้ก้อนดังกล่าวจะสนับสนุนความพยายามของรัฐบาลปากีสถานในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ หลังเผชิญภาวะตื่นตระหนกจากต่างประเทศเมื่อไม่นานมานี้ รวมถึง รักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค และจัดเตรียมกรอบการทำงานสำหรับการจัดหาเงินทุนจากพันธมิตรพหุภาคีและทวิภาคี
ปากีสถานตกลงที่จะปรับขึ้นภาษีและลดค่าใช้จ่าย เพื่อให้ IMF ยอมอนุมัติเงินกู้ ในช่วงไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ก่อนที่โครงการปล่อยเงินกู้ก่อนหน้านี้จะสิ้นสุดลง โดยปากีสถานต้องการเงินกู้เพื่อจัดการกับวิกฤตค่าเงินดอลลาร์ บรรเทาปัญหาการขาดแคลนอุปทาน และผลักดันให้เศรษฐกิจหลุดพ้นจากภาวะวิกฤตก่อนที่จะถึงการเลือกตั้งในปีนี้
ปากีสถานเผชิญกับปัญหาหนี้ต่างประเทศประมาณ 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับปีงบประมาณ 2567 ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในเดือนก.ค. ที่สูงกว่าเงินทุนสำรองของประเทศกว่า 6 เท่า
มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิสได้ออกมาเตือนในเดือนนี้ว่า ปากีสถานอาจผิดนัดชำระหนี้ได้หากปราศจากเงินกู้ของ IMF เนื่องจากเงินทุนสำรองที่อยู่ในระดับต่ำมาก โดยปากีสถานคือ 1 ใน 3 ประเทศสุดท้ายในเอเชียใต้ที่หันไปพึ่งพาเงินทุนจาก IMF เนื่องจากความล่าช้าในการปฏิรูปและการทำข้อตกลงกับเจ้าหนี้ ท่ามกลางวิกฤตทางการเมือง