นักวิเคราะห์ในผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ว่า ยอดเกินดุลการค้าจะอยู่ที่ 1.35 พันล้านดอลลาร์ในเดือนที่แล้ว โดยอินโดนีเซียมียอดเกินดุลการค้าที่ 440 ล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค.
การส่งออกปรับตัวลง 21.18% สู่ระดับ 2.061 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งลดลงมากกว่าที่ผลสำรวจคาดไว้ที่ 18.85%
ขณะเดียวกัน การนำเข้าของอินโดนีเซียลดลง 18.35% สู่ระดับ 1.715 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบรายปี ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะลดลง 7.75%
นายฟาครุล ฟุลเวียน นักเศรษฐศาสตร์จากตรีเมกาห์ ซีเคียวริตี้ (Trimegah Securities) ระบุว่า ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) มีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปี
ตรีเมกาห์มองว่า BI จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในปีนี้ โดยคาดการณ์ว่า อินโดนีเซียมีบัญชีเดินสะพัดเกินดุลเท่ากับ 0.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในปี 2566
ทั้งนี้ BI ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวมทั้งสิ้น 2.25% ระหว่างเดือนส.ค.-ม.ค. เพื่อรับมือแรงกดดันจากเงินเฟ้อ