สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวลง 0.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2564 และเป็นการส่งสัญญาณว่าจีนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะเงินฝืดและมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี ดัชนี CPI เดือนก.ค.ของจีนปรับตัวลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่าอาจลดลง 0.4%
ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ลดลง 4.4% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งปรับตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอาจลดลง 4.1%
ทางการจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแออย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวานนี้ สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานว่า ยอดส่งออกโดยรวมในเดือนก.ค.ร่วงลง 14.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2563 และย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 12.5% ขณะที่ยอดนำเข้าโดยรวมร่วงลง 12.4% ในเดือนก.ค. ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 5%
จีนมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญด้านอื่น ๆ ในวันที่ 15 ส.ค.นี้ ซึ่งรวมถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค., ยอดค้าปลีกเดือนก.ค., อัตราว่างงานเดือนก.ค. และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนก.ค.