นายรอสส์ แมคอีวาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB) เปิดเผยในวันนี้ (24 ส.ค.) ว่า ออสเตรเลียเผชิญสถานการณ์เงินเฟ้อครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 30 ปีในช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา แต่เศรษฐกิจของประเทศยังคงไม่มีแนวโน้มว่าจะเข้าสู่ภาวะถดถอย
นายแมคอีวานกล่าวสุนทรพจน์ที่หอการค้าออสเตรเลีย-อิสราเอลว่า "สถานการณ์เงินเฟ้อในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมานั้นส่งผลกระทบต่อชาวออสเตรเลียมากกว่าครั้งไหน ๆ ในรอบ 30 ปี แม้ขณะนี้เริ่มชะลอตัวลงบ้างแล้ว" และกล่าวเสริมว่า "สำหรับประเด็นที่ว่าออสเตรเลียจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือไม่นั้นยังต้องถกกันอีกมาก เนื่องจากเรามีอุปสรรคมากมายที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ แต่ส่วนตัวแล้วผมมองว่าเศรษฐกิจออสเตรเลียจะไม่ถดถอย"
เงินเฟ้อออสเตรเลียแตะระดับสูงสุดที่เกือบ 8% ในช่วงต้นปีนี้ แต่หลังจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 4.0% นับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2565 จาก 0.1% สู่ 4.1% ทำให้เงินเฟ้อชะลอตัวลงสู่ระดับ 6% แม้ว่าเงินเฟ้อยังคงสูงกว่ากรอบเป้าหมายของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ที่ 2% - 3% เป็นเท่าตัว แต่การชะลอตัวดังกล่าวก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ RBA ระงับการคุมเข้มทางการเงิน
NAB และผู้ให้สินเชื่อรายใหญ่อื่น ๆ อีก 3 ราย ซึ่งครองตลาดการจำนองของออสเตรเลียมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) พบการชำระหนี้ล่าช้าเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากอัตราการว่างงานยังคงอยู่ในระดับเกือบต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
นายแมคอีวานกล่าวว่า "มีเหตุผลมากมายให้มั่นใจว่า สิ่งต่าง ๆ จะกลับสู่ทิศทางที่ดีในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า"