สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนปรับตัวลง 6.7% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเดือนที่ 7 เนื่องจากการชะลอตัวของอุปสงค์และเศรษฐกิจได้ส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ ตัวเลขกำไรภาคอุตสาหกรรมนั้น ได้จากการสำรวจบริษัทในภาคอุตสาหกรรมของจีนที่มีรายได้ต่อปีจากธุรกิจหลักอย่างน้อย 20 ล้านหยวน (ประมาณ 2.78 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ส่วนในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2566 กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนร่วงลง 15.5% สู่ระดับ 3.94 ล้านล้านหยวน หลังจากที่ดิ่งลง 16.8% ในช่วง 6 เดือนแรก
ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าภาคอุตสาหกรรมของจีนยังคงอ่อนแอ โดย NBS รายงานว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ค.ของจีนหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 เนื่องจากเศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกยังคงเผชิญกับภาวะซบเซา ท่ามกลางอุปสงค์ทั่วโลกที่อ่อนแรงลง การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังของจีนทำให้หลายฝ่ายเรียกร้องให้รัฐบาลจีนเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้ว่านายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนได้แสดงความเชื่อมั่นว่าจีนจะสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ระดับ 5% ในปีนี้ก็ตาม