สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (14 ก.ย.) ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของญี่ปุ่นลดลง 1.1% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน แย่กว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่าอาจลดลง 0.9% และสวนทางกับตัวเลขในเดือนมิ.ย.ที่เพิ่มขึ้น 2.7%
เมื่อเทียบเป็นรายปี ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานหดตัวลง 13.0% ในเดือนก.ค. หนักกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าอาจลดลง 10.7%
คำสั่งซื้อจากภาคการผลิตร่วงลง 5.3% นับเป็นการหดตัวลงรุนแรงที่สุดในรอบ 8 เดือน โดยมีสาเหตุหลักมาจากดีมานด์สินค้าคอมพิวเตอร์ที่อ่อนแอในอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงเครื่องจักรไฟฟ้า, ยานยนต์ และเคมีภัณฑ์ แต่ในทางกลับกัน คำสั่งซื้อจากบริษัทในภาคบริการ "พื้นฐาน" ซึ่งไม่นับรวมยอดสั่งซื้อจากอุตสาหกรรมการขนส่งและสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้า เพิ่มขึ้น 1.3%
การหดตัวดังกล่าวเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของญี่ปุ่นลังเลที่จะลงทุนเพิ่ม ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและตลาดจีนที่อ่อนแอลง และแสดงถึงความท้าทายที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้กำหนดนโยบายของญี่ปุ่นในการรับมือกับปัญหาอุปสงค์ซบเซาจากทั้งในและต่างประเทศ