นักเศรษฐศาสตร์จากโกลด์แมน แซคส์เปิดเผยคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไตรมาส 4 ของปีหน้า หลังจากที่ก่อนหน้านี้คาดการณ์ว่าจะปรับลดในไตรมาส 2
เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% เมื่อวานนี้ (20 ก.ย.) และคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในปีหน้า จาก 1.00% ที่คาดไว้ก่อนหน้านี้
นายยาน แฮตซิอุส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์กล่าวว่า "วันนี้นักวิเคราะห์หลายคนดูเหมือนจะมีความเห็นที่แตกต่างออกไปจากมุมมองก่อนหน้านี้ที่ว่า การคุมเข้มนโยบายการเงินอาจถ่วงการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างยาวนานในปีหน้า ซึ่งทำให้ข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมีน้ำหนักน้อยลง เราคิดว่า สิ่งนี้เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า เงินเฟ้อจะต้องปรับตัวลงมากกว่าที่เราคาดไว้ก่อนหน้านี้เพื่อที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) จะทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง"
ด้านธนาคารบาร์เคลย์คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 3 ครั้งสุดท้ายของเฟดในปี 2567 ขณะที่มอร์แกน สแตนลีย์ ยังคงเชื่อว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกจะเกิดขึ้นในเดือนมี.ค.ปีหน้า
สำหรับการคาดการณ์รายไตรมาสของเฟดบ่งชี้ว่า อาจยังคงต้องมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้สู่ระดับสูงสุดที่ 5.50-5.75%
ขณะที่โกลด์แมน แซคส์และมอร์แกน สแตนลีย์ไม่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้นั้น บาร์เคลย์, แบงก์ ออฟ อเมริกา (BofA) และซิตี้กรุ๊ปกลับคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือนพ.ย.นี้