ผลสำรวจจากเอสแอนด์พีโกลบอลเปิดเผยในวันนี้ (22 ก.ย.) ว่า กิจกรรมทางธุรกิจในภาคบริการของฝรั่งเศสหดตัวในเดือนก.ย. เนื่องจากดีมานด์และยอดคำสั่งซื้อใหม่ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของฝรั่งเศส
รายงานระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นของฝรั่งเศสจากฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 34 เดือนที่ 43.9 ในเดือนก.ย. และต่ำกว่าที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดไว้ว่าจะคงที่
ตัวเลขดังกล่าวแตะระดับต่ำสุด นับตั้งแต่บันทึกไว้เมื่อเดือนพ.ย. 2563 ที่ระดับ 38.0 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ฝรั่งเศสเผชิญกับการมาตรการล็อกดาวน์ครั้งที่ 2 เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 อีกทั้ง เดือนก.ย. นับเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันที่ดัชนี PMI อยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าธุรกิจมีการหดตัว
ขณะเดียวกัน ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นต้นอยู่ที่ 43.6 ซึ่งปรับตัวลดลงอย่างมากจากระดับ 46.0 ในเดือนส.ค. และต่ำกว่าคาดการณ์ของบลูมเบิร์กที่มองว่าดัชนีดังกล่าวจะคงที่
ทั้งนี้ ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและบริการขั้นต้นในเดือนก.ย. อยู่ที่ 43.5 ลดลงมาจากดัชนีขั้นสุดท้ายของเดือนส.ค.ที่ 46.0 และต่ำกว่าที่รอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ 46.0