ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ (2 ต.ค.) ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ในไตรมาส 3/2566 ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 9 จากระดับ 5 ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันสองไตรมาส และสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นสามารถต้านทานกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก
ทั้งนี้ ดัชนีทังกันประจำไตรมาส 3 ซึ่งครอบคลุมถึงผู้ผลิตรถยต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์นั้น อยู่ในระดับสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวเกียวโดคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 6
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มบริษัทนอกภาคการผลิตซึ่งรวมถึงภาคบริการนั้น เพิ่มขึ้นแตะระดับ 27 ในไตรมาส 3 จากระดับ 23 ในไตรมาส 2 และแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 24 โดยภาคบริการของญี่ปุ่นยังคงได้รับประโยชน์จากการที่รัฐบาลยกเลิกมาตรการเข้มงวดในการควบคุมโควิด-19 รวมทั้งอุตหกรรมการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว
รายงานของ BOJ ยังระบุด้วยว่า กลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นคาดการณ์ว่าจะเพิ่มการลงทุนอีก 13.6% ในปีงบการเงินปัจจุบันซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมี.ค. 2567 โดยตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า คณะกรรมการ BOJ จะนำข้อมูลทังกันทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของญี่ปุ่นมาประกอบการพิจารณาเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ เพื่อประเมินว่าควรจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่ หลังจากที่ BOJ ใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบมาเป็นเวลานาน