โกลด์แมน แซคส์เปิดเผยว่า อุปสงค์ทองแดงในประเทศจีนปรับตัวขึ้นราว 8% นับตั้งแต่ต้นปี 2566 เมื่อเทียบรายปี ขณะที่อุปสงค์แร่เหล็กและน้ำมันปรับตัวขึ้น 7% และ 6% ตามลำดับ ซึ่งอุปสงค์สินค้าทั้ง 3 ชนิดนี้อยู่ในระดับสูงกว่าการคาดการณ์ตลอดปี 2566 ของโกลด์แมน แซคส์
โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้อุปสงค์แข็งแกร่งขึ้นนั้น มาจากการเติบโตของเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy), โครงข่ายไฟฟ้า และโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ โดยเศรษฐกิจสีเขียวหมายถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างสมดุล เพื่อให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนไปพร้อมกัน
โกลด์แมน แซคส์ยังระบุด้วยว่า แม้ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนยังคงเผชิญกับความยากลำบากในการฟื้นตัว แต่เศรษฐกิจสีเขียวของจีนมีความแข็งแกร่งอย่างมีนัยสำคัญนับตั้งแต่ต้นปีนี้ ส่งผลให้อุปสงค์โลหะที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว เช่น ทองแดง ปรับตัวสูงขึ้นด้วย
นักเศรษฐศาสตร์ของโกลแมนด์ แซคส์ระบุว่า อุปสงค์ทองแดงที่เพิ่มขึ้นนั้น ส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนความนิยมในการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ภายในประเทศ ซึ่งปริมาณการติดตั้งต้นปี 2566 จนถึงขณะนี้ เทียบเท่ากับระดับการติดตั้งในช่วงหลายปีรวมกัน
องค์กรติดตามพลังงานโลก (GEM) เปิดเผยในเดือนมิ.ย.ว่า กำลังการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ของจีนแตะที่ระดับ 228 กิกะวัตต์ ซึ่งมากกว่าปริมาณของทั้งโลกรวมกัน และจีนอยู่ระหว่างการเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานลมและแสงอาทิตย์เป็นเท่าตัวภายใน 5 ปี ก่อนถึงเป้าหมายในปี 2573
นอกจากนี้ การฟื้นตัวของภาคการผลิตของจีนยังช่วยเพิ่มความต้องการโลหะพื้นฐาน เช่น อะลูมิเนียม อีกด้วย โดยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.ของจีนขยายตัว 4.5% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.9%