เหล่าผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำระดับโลกเปิดเผยรายงานเมื่อวันอังคาร (3 ต.ค.) ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ของสหรัฐเพิ่มขึ้นในไตรมาส 3/2566 โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์รถยนต์รุ่นล่าสุดที่ค่อนข้างแข็งแกร่งและอุปทานที่ดีขึ้น
ข้อมูลจากวอร์ดส์ อินเทลลิเจนท์ (Wards Intelligence) ระบุเมื่อวานนี้ว่า โดยรวมแล้ว ยอดขายรถยนต์ใหม่ในสหรัฐเดือนก.ย.อยู่ที่ 1.33 ล้านคัน ขณะที่ ยอดขายปีนี้อยู่ที่ 15.67 ล้านคัน
ยอดขายรถยนต์ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งนี้มีขึ้นท่ามกลางการหยุดงานประท้วงอย่างต่อเนื่องของสหภาพแรงงานยานยนต์สหรัฐ (UAW) โดยการผละงานประท้วงดังกล่าวส่งผลกระทบต่อ 3 บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่แห่งเมืองดีทรอยต์ ซึ่งจุดชนวนให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดภาวะชะงักงันด้านอุปทานในไตรมาสปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ยอดขายรถยนต์ในเดือนก.ย. ยังได้รับอานิสงส์จากสินค้าคงคลังที่สะสมไว้เพื่อเตรียมรับมือการหยุดงานประท้วง
ทั้งนี้ เจนเนอรัล มอเตอร์สยังคงสามารถทำยอดขายรถยนต์ในสหรัฐในปีนี้ได้อย่างแข็งแกร่ง โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 21% สู่ระดับ 674,336 คัน โดยได้รับอานิสงส์จากอุปสงค์รถกระบะ รถเอสยูวี (SUV) ราคาจับต้องได้ และรถยนต์ไฟฟ้า
ส่วนคู่แข่งอย่างฟอร์ด มอเตอร์ คาดว่าจะรายงานยอดขายรถยนต์ในสหรัฐในวันนี้ (3 ต.ค.) ในขณะที่ เฟียต ไครสเลอร์ ออโต้โมบิลส์ (FCA) ในสหรัฐของสเตลแลนทิส มีรายงานยอดขายลดลง 1.3% แตะที่ 380,563 คันในไตรมาส 3/2566
ขณะเดียวกัน แบรนด์รถยนต์ในเอเชียมีกำไรมากขึ้น โดยโตโยต้ามอเตอร์มียอดขายในสหรัฐเพิ่มขึ้น 12.2% ในไตรมาส 3 ขณะที่เกีย (Kia) และ ฮุนไดก็มียอดขายที่สูงขึ้นเช่นกันในช่วงเวลาดังกล่าว