สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียรายงานในวันนี้ว่า ออสเตรเลียมียอดเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนส.ค. เนื่องจากการส่งออกแร่เหล็กปรับตัวเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ยอดเกินดุลการค้าเดือนส.ค.ของออสเตรเลียอยู่ที่ 9.6 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (6.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 8.7 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย และสูงกว่ายอดเกินดุลการค้าในเดือนก.ค.ซึ่งอยู่ที่ระดับ 7.3 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
สำนักงานสถิติระบุว่า ยอดส่งออกเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 4% ขณะที่ยอดการนำเข้าแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก.ค.
ยอดส่งออกแร่เหล็กในเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 4.4% ขณะที่ยอดส่งออก non-monetary gold (หรือทองคำที่ไม่ได้ใช้เป็นเงินตรา แต่ใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง) พุ่งขึ้น 96.7% ส่วนการนำเข้าเชื้อเพลิงและน้ำมันหล่อลื่นทะยานขึ้น 20.8%
จีนยังคงเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย โดยจีนนำเข้าสินค้าจากออสเตรเลียเพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนส.ค. โดยเฉพาะแร่เหล็กและถ่านหิน
การเปิดเผยข้อมูลการค้าในวันนี้ มีขึ้นหลังจากธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.10% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 4 และสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้
นางมิเชล บูลล็อก ผู้ว่าการ RBA คนใหม่ได้แถลงต่อผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมว่า การใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินในระดับหนึ่งในวันข้างหน้าอาจเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะกลับสู่กรอบเป้าหมายของ RBA ในเวลาที่เหมาะสม แต่การตัดสินใจในเรื่องดังกล่าวนั้นจะขึ้นอยู่กับข้อมูลและการประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง"