บริษัทเคาน์เตอร์พอยต์ รีเสิร์ช (Counterpoint Research) รายงานว่า ตลาดสมาร์ตโฟนทั่วโลกหดตัวลง 8% แตะระดับต่ำสุดในไตรมาส 3 ในรอบ 10 ปี เนื่องจากดีมานด์ซบเซาลงสำหรับสมาร์ตโฟนแบรนด์หลัก ซึ่งรวมถึงแอปเปิ้ลและซัมซุงในตลาดของประเทศพัฒนาแล้ว
ข้อมูลระบุว่า ส่วนแบ่งตลาดของแบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำ 5 อันดับแรก ซึ่งรวมถึงแบรนด์ของจีนอย่างเสี่ยวหมี่ ออปโป และวีโว่ ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี
รายงานดังกล่าวสร้างความวิตกกังวลว่า ตลาดที่ยังคงซบเซาต่อเนื่องอาจกระทบรายได้ของบริษัทต่าง ๆ อาทิ แอปเปิ้ลซึ่งมียอดจัดส่งลดลง 8% ในไตรมาสนี้ ตลอดจนซัมซุงซึ่งเป็นผู้นำตลาดมียอดขายร่วงลง 13% ในช่วงเวลาดังกล่าว
ทั้งนี้ ในบรรดาบริษัทที่สามารถคว้าส่วนแบ่งการตลาดในไตรมาสนี้ได้แก่ หัวเว่ยของจีนซึ่งเป็นคู่แข่งของแอปเปิ้ล ได้สร้างความประหลาดใจให้กับอุตสาหกรรมในช่วงต้นปีนี้ด้วยการเปิดตัวสมาร์ตโฟน Mate 60 Pro ที่ใช้ชิปขั้นสูงที่ผลิตในประเทศจีน แม้เผชิญการคว่ำบาตรจากสหรัฐอย่างเข้มงวดก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ยอดจัดส่งโดยรวมเพิ่มขึ้น 2% ทั่วทั้งอุตสาหกรรมในไตรมาส 2 ได้จุดประกายความหวังว่า ตลาดจะสามารถหลุดพ้นจากการหดตัวลงเมื่อเทียบรายปีตลอดระยะเวลา 2 ปีได้ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้
เคาน์เตอร์พอยต์ชี้ว่า ผลิตภัณฑ์ iPhone 15 ที่วางจำหน่ายเมื่อเดือนก.ย. เป็นปัจจัยที่จะสามารถช่วยฟื้นฟูการเติบโตของตลาดของประเทศพัฒนาแล้วได้ อาทิ สหรัฐ ยุโรป และเกาหลีใต้
นอกจากนี้ เคาน์เตอร์พอยต์ยังกล่าวอีกว่า ฤดูเทศกาลในอินเดีย อีเวนต์การขาย 11.11 ของจีน และโปรโมชันต่าง ๆ ในช่วงสิ้นปีทั่วภูมิภาคต่าง ๆ จะสามารถสนับสนุนตลาดสมาร์ตโฟนได้ด้วยเช่นกัน