สมาคมผู้ผลิตยานยนต์ยุโรป (ACEA) เปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (20 ต.ค.) บ่งชี้ว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ในสหภาพยุโรป (EU) เพิ่มขึ้น 9.2% ในเดือนก.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
ข้อมูลระบุว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบเพิ่มขึ้น 14.3% เมื่อเทียบรายปี และรถยนต์ไฮบริดเพิ่มขึ้นมากกว่า 30% โดยยอดขายเพิ่มสูงขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 14
ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบคิดเป็น 14.8% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ ซึ่งเมื่อพิจารณายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ รถยนต์แบบปลั๊กอินไฮบริด และรถยนต์ไฮบริดเต็มรูปแบบรวมกันจะมีสัดส่วนสูงกว่า 50% ของยอดขายรถยนต์ใหม่
ยอดขายรถยนต์ดีเซลยังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่องสู่ระดับเพียง 12.5% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ ลดลงมาจาก 15.9% เมื่อเทียบรายปี โดยเมื่อปี 2558 รถยนต์ดีเซลครองสัดส่วนมากกว่า 50% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ใน EU
ACEA ระบุว่า ยอดขายรถยนต์ของโฟล์คสวาเกน (Volkswagen) เพิ่มขึ้น 9.6% ในเดือนก.ย. ในขณะที่สเตลแลนทิส (Stellantis) และเรโนลต์ (Renault) มียอดขายเพิ่มขึ้น 11.3% และ 5.1% ตามลำดับ
ยอดขายรถยนต์ในยุโรปยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก
ทั้งนี้ แม้ยอดขายจะมีการเติบโต 14 เดือนติดต่อกันก็ตาม แต่ยอดขายรถยนต์ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 ยังคงต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนการแพร่ระบาดถึง 20%
ACEA ระบุว่า จำนวนรถยนต์ใหม่ที่มีการจดทะเบียนในเดือนก.ย.ใน EU, อังกฤษ และสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) เพิ่มขึ้น 11.1% สู่ระดับ 1.17 ล้านคัน