สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) รายงานในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนต.ค.ของจีนร่วงลง 6.4% สู่ระดับ 2.748 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่าอาจลดลงเพียง 3.3% และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเดือนที่ 6
ส่วนยอดนำเข้าเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 3% สู่ระดับ 2.183 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบเป็นรายปี สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าอาจลดลง 4.8%
ทั้งนี้ จีนมียอดเกินดุลการค้าในเดือนต.ค.อยู่ที่ระดับ 5.65 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงจากระดับ 7.77 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย.
รายงานของ GAC ระบุว่า จีนนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้นกว่า 5% และนำเข้าจากประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น 10.2% แต่จีนนำเข้าสินค้าจากสหรัฐลดลง 3.7% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
สำหรับปัจจัยที่ทำให้การค้าของจีนชะลอตัวลงนั้น มาจากอุปสงค์สินค้าและการบริการของจีนที่อ่อนแอลงในตลาดโลก
อย่างไรก็ดี ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2566 ของจีนขยายตัว 4.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และอาจทำให้จีนสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ระดับ 5% ในปีนี้
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนรัฐบาลท้องถิ่น นอกจากนี้ ทางการจีนยังออกมาตรการขนานใหญ่เพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาดอสังหาริมทรัพย์