การวิเคราะห์ข้อมูลสาธารณะของสำนักข่าวซีเอ็นบีซีในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้เผยให้เห็นว่า แบรนด์รถยนต์ต่าง ๆ ของจีนกำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้รถยนต์พลังงานใหม่อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้โฟล์คสวาเกน ซึ่งเป็นผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่จากเยอรมนี มีแนวโน้มที่จะมียอดขายในจีนน้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 2555 ในปีนี้
อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์แบรนด์รถยนต์ระดับโลก 10 แบรนด์ของสำนักข่าวซีเอ็นบีซีบ่งชี้ว่า โฟล์คสวาเกนไม่ใช่แบรนด์เดียวที่กำลังเผชิญสภาวะดังกล่าว
รายงานระบุว่า นิสสันกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ปีที่ทำผลงานได้ย่ำแย่ที่สุดในตลาดจีนนับตั้งแต่ปี 2552 ขณะที่ฮุนไดมีแนวโน้มที่จะมียอดขายต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552 เช่นเดียวกัน
ยอดขายที่ลดลงเหล่านี้เกิดขึ้นในขณะที่จีนมีการเปลี่ยนแปลงจากการใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในไปสู่รถยนต์พลังงานใหม่อย่างรวดเร็ว โดยจีนเป็นตลาดแบตเตอรี่และรถยนต์ไฮบริดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งเทสลาและแบรนด์รถยนต์ในประเทศอย่างบีวายดี (BYD) ยึดครองเอาไว้
ในจีน ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก รถยนต์พลังงานใหม่ครองสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 3 ของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่จำหน่ายในประเทศในปีนี้ สอดคล้องกับการคาดการณ์ของสมาคมรถยนต์โดยสารแห่งประเทศจีน (CPCA) ที่ระบุว่า ตลาดรถยนต์ในประเทศจีนจะเติบโตขึ้น 20% ในเดือนพ.ย.จากเมื่อปีที่แล้ว
แม้โฟล์คสวาเกนยังคงเป็นยักษ์ใหญ่ในตลาดจีนด้วยยอดจำหน่วยรถยนต์ราว 3 ล้านคันต่อปี แต่แบรนด์ก็ไม่ได้รับความสนใจมากนักในด้านรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ในเดือนก.ค. บริษัทตัดสินใจทุ่มเม็ดเงินลงทุนราว 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเสี่ยวเผิง (Xpeng) บริษัทสตาร์ตอัปรถยนต์ไฟฟ้าของจีน เพื่อร่วมกันพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า 2 รุ่นสำหรับจำหน่ายในจีน
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีพบว่า บีวายดีกำลังไล่ตามโฟล์คสวาเกนอย่างรวดเร็วด้วยยอดขายมากกว่า 1 ล้านคันเป็นครั้งแรกในปี 2565 และคาดว่าจะมียอดขายแตะที่ 2.5 ล้านคันในจีนในปีนี้
ส่วนโตโยต้า ซึ่งประสบปัญหาด้านการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าในตลาดจีน คาดว่าจะมียอดขายโดยรวมในจีนเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 2563 ที่ยอดขายรถยนต์ประมาณ 1.8 ล้านคัน