อีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (Economist Intelligence Unit - EIU) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิเคราะห์เศรษฐกิจเปิดเผยในวันนี้ (30 พ.ย.) ว่า สิงคโปร์และซูริคร่วมกันครองอันดับเมืองที่ค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกในปีนี้ ตามมาด้วยเจนีวา นิวยอร์ก และฮ่องกง พร้อมทั้งเตือนว่า วิกฤตค่าครองชีพทั่วโลกยังไม่สิ้นสุด
รายงานระบุว่า โดยเฉลี่ยแล้ว ราคาสินค้าและบริการที่ใช้กันโดยทั่วไปกว่า 200 รายการปรับตัวขึ้น 7.4% เมื่อเทียบเป็นรายปีในรูปสกุลเงินท้องถิ่น โดยลดลงมาจากการเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 8.1% เมื่อปีที่แล้ว แต่ยังคงสูงกว่าระดับแนวโน้มในปี 2560-2564 เป็นอย่างมาก
สิงคโปร์กลับมาครองอันดับ 1 อีกครั้งเป็นครั้งที่ 9 ในช่วง 11 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากราคาสินค้าและบริการหลากหลายประเภทพุ่งสูงขึ้น โดยค่าขนส่งของสิงคโปร์นั้นสูงที่สุดในโลก อันเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลควบคุมจำนวนรถยนต์อย่างเข้มงวด นอกจากนี้ ยังเป็นหนึ่งในเมืองที่มีสินค้าประเภทเสื้อผ้า ของชำ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่แพงที่สุดอีกด้วย
ขณะเดียวกันค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นของเมืองซูริคสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของสกุลเงินฟรังก์สวิส และราคาของชำ ของใช้ในครัวเรือน และกิจกรรมนันทนาการที่อยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้ กรุงเจนีวาและนิวยอร์กครองอันดับ 3 ร่วมกัน ในขณะที่ฮ่องกงตามมาเป็นอันดับที่ 5 และลอสแอนเจลิสอยู่ที่อันดับ 6
ข้อมูลระบุด้วยว่า การเพิ่มขึ้นของราคาโดยเฉลี่ยในเอเชียนั้น ยังค่อนข้างต่ำกว่าเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น ๆ
อนึ่ง เมืองต่าง ๆ ของจีนหลุดโผจากการจัดอันดับในครั้งนี้ โดยเมือง 4 แห่งได้แก่ หนานจิง อู๋ซี ต้าเหลียน และปักกิ่ง เป็นหนึ่งในเมืองที่มีอันดับลดลงมากที่สุดในปีนี้ เช่นเดียวกับโอซาก้าและโตเกียวของญี่ปุ่น
10 อันดับเมืองที่มีค่าครองชีพสูงสุดในโลกได้แก่
1. สิงคโปร์
1. ซูริค
3. เจนีวา
3. นิวยอร์ก
5. ฮ่องกง
6. ลอสแอนเจลิส
7. ปารีส
8. โคเปนเฮเกน
8. เทลอาวีฟ 10. ซานฟรานซิสโก