สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ (7 ธ.ค.) ว่า ออสเตรเลียเกินดุลการค้าเพิ่มขึ้นในเดือนต.ค. โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกแร่เหล็กและแร่ธาตุต่าง ๆ ขณะที่การนำเข้าลดลง
ทั้งนี้ ABS ระบุว่า ยอดเกินดุลค้าของออสเตรเลียอยู่ที่ระดับ 7.1 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (4.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 7.5 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย โดยยอดส่งออกเดือนต.ค.ดีดตัวขึ้น 0.4% หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ขณะที่ยอดการนำเข้าเดือนต.ค.ลดลง 1.9%
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ออสเตรเลียเกินดุลการค้าเป็นเวลานานเกือบ 6 ปี โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกแร่เหล็กและเชื้อเพลิงไปยังประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
อุปสงค์สินค้าของออสเตรเลียได้รับปัจจัยหนุนจากจีนซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่อันดับหนึ่ง โดยจีนมีความต้องการแร่เหล็กและถ่านหินในปริมาณมาก
ทั้งนี้ จีนและออสเตรเลียเริ่มกลับมาทำการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์บางประเภทอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศต้องสะดุดลง เนื่องจากข้อพิพาททางการเมือง