สถาบันเวสต์แพ็ก-เมลเบิร์น (Westpac-Melbourne) เปิดเผยผลการสำรวจในวันนี้ (12 ธ.ค.) โดยว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคออสเตรเลียเพิ่มขึ้นในเดือนธ.ค. แต่เมื่อพิจารณาตลอดปี 2566 ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทำสถิติย่ำแย่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากค่าครองชีพและอัตราดอกเบี้ยพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.7% แตะระดับ 82.1 ซึ่งแม้ว่าฟื้นตัวจากเดือนพ.ย.ที่ปรับตัวลง 2.6% แต่ดัชนีที่อยู่ต่ำกว่า 100 บ่งชี้ว่า ผู้บริโภคที่มีมุมมองในแง่ลบต่อเศรษฐกิจมีจำนวนมากกว่าผู้ที่มีมุมมองในแง่บวก
ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคออสเตรเลียอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 100 นับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2565 ซึ่งเป็นสถิติที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงทศวรรษที่ 1990
แมทธิว ฮัสซัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเวสต์แพ็กกล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีดตัวขึ้นในเดือนธ.ค.นั้น มาจากการที่ผู้บริโภคขานรับธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.35% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา
"การที่ RBA คงอัตราดอกเบี้ยช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการกู้ยืม อย่างไรก็ดี อัตราดอกเบี้ยนโยบายของออสเตรเลียในขณะนี้ถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 12 ปี และค่าครองชีพก็อยู่ในระดับที่สูงมาก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวยังคงสร้างแรงกดดันต่อผู้บริโภค" นายฮัสซันกล่าว