ทางการจีนเปิดเผยว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนพ.ย.ขยายตัวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2565 แม้ว่ายอดค้าปลีกเติบโตต่ำกว่าการคาดการณ์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวขึ้นแบบกระท่อนกระแท่น
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ (15 ธ.ค.) ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้น 6.6% ในเดือนพ.ย.จากปีก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ในผลสำรวจนักวิเคราะห์ที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ที่ 5.6% และตามหลังการปรับตัวขึ้น 4.6% ในเดือนต.ค.
ขณะที่ยอดค้าปลีกของจีนปรับตัวขึ้น 10.1% ในเดือนพ.ย.จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นการเติบโตเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. แต่ยังคงต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้น 12.5% หลังจากมีฐานเปรียบเทียบในระดับต่ำในปี 2565 โดยเวลานั้นมาตรการสกัดโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีน ส่วนยอดค้าปลีกเดือนต.ค.ปรับตัวขึ้น 7.6%
รายงานระบุว่า อัตราว่างงานในเขตเมืองของจีนทรงตัวที่ 5% ในเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ตอกย้ำแนวโน้มอุปสงค์ผู้บริโภคภายในประเทศที่อ่อนแอซึ่งแสดงให้เห็นในข้อมูลเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่มีการเปิดเผยไปเมื่อไม่นานมานี้และเป็นจุดสนใจหลักในเอกสารที่คณะผู้นำจีนเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวันอังคารที่ 12 ธ.ค.ในช่วงสิ้นสุดการประชุมเพื่อวางแผนเศรษฐกิจสำหรับปี 2567
ส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ปรับตัวขึ้น 2.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่มีการคาดการณ์ว่าอาจปรับตัวขึ้น 3% แต่เท่ากับการเติบโต 2.9% ในช่วงเดือนม.ค.-ต.ค.