ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัสเปิดเผยผลสำรวจความเห็นผู้บริหารบริษัทน้ำมันและก๊าซระบุว่า กิจกรรมเกี่ยวกับน้ำมันและก๊าซยังคงไม่เปลี่ยนแปลงในไตรมาส 4/2566 ขณะที่มุมมองเชิงบวกลดลง เนื่องจากความไม่แน่นอนเพิ่มสูงขึ้น
นายคูนัล พาเทล นักเศรษฐศาสตร์ของเฟดสาขาดัลลัสกล่าวว่า ความไม่แน่นอนบางประการเกิดจากราคาน้ำมันเฉลี่ยที่ลดลง และความไม่แน่ใจเกี่ยวกับความสามารถของกลุ่มโอเปกในการควบคุมราคาน้ำมัน
ผลสำรวจบ่งชี้ว่า "แนวโน้มบริษัทด้านการสำรวจและการผลิต (E&P) มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เนื่องจากดัชนีชี้วัดแนวโน้มของบริษัทเหล่านี้ร่วงลงอย่างรุนแรงจากระดับ 46.8 ลงสู่ระดับ -9.0"
ผลสำรวจระบุว่า การผลิตน้ำมันในรัฐต่าง ๆ ของสหรัฐซึ่งไม่รวมอะแลสกาและฮาวายนั้นปรับตัวขึ้น แต่ในอัตราที่ชะลอลง นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์เกี่ยวกับการควบรวมและการซื้อกิจการที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น
นายพาเทลระบุในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (20 ธ.ค.) ว่า "บรรดาผู้บริหารของบริษัท E&P ขนาดใหญ่มีแนวโน้มที่จะรายงานเป้าหมายในปี 2567 ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของพวกเขาว่า ต้องการซื้อสินทรัพย์หรือลดหนี้" ขณะที่เป้าหมายหลักของบริษัท E&P ขนาดเล็กในปีหน้าคือการเพิ่มกำลังการผลิต
ทั้งนี้ ในปี 2567 ต้นทุนของบริษัทผู้ให้บริการเพิ่มขึ้นในระดับปานกลาง แต่อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นยังคงเป็นปัจจัยที่น่ากังวล โดยผู้บริหารรายหนึ่งระบุว่า "การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเริ่มส่งผลกระทบต่อกิจกรรม เรามองว่าดีมานด์ยังคงเท่าเดิม แต่ภาวะอุปทานล้นตลาดเป็นปัญหาที่กดราคาน้ำมันลง"
นอกจากนี้ ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาสได้เพิ่มความไม่แน่นอนด้วยเช่นกัน