กระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงานของเกาหลีใต้รายงานในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนธ.ค. 2566 ปรับตัวขึ้น 5.1% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ระดับ 5.766 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนพ.ย.ที่เพิ่มขึ้น 7.7% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 6.6%
การชะลอตัวลงของยอดส่งออกเดือนธ.ค.สะท้อนให้เห็นว่า อุปสงค์สินค้าเกาหลีใต้ในตลาดโลกยังคงอ่อนแอ โดยตลาดการเงินจับตาการส่งออกของเกาหลีใต้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมองว่าเป็นหนึ่งในข้อมูลที่สามารถบ่งชี้ทิศทางการค้าโลก
ส่วนยอดนำเข้าของเกาหลีใต้ในเดือนธ.ค.ลดลง 10.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 5.31 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งดีกว่าในเดือนพ.ย.ที่ร่วงลง 11.6% และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลง 11.4% ซึ่งส่งผลให้เกาหลีใต้มียอดเกินดุลการค้ามูลค่า 4.48 พันล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค.
ส่วนตลอดปี 2566 นั้น ยอดส่งออกของเกาหลีใต้ลดลง 7.4% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ระดับ 6.326 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดนำเข้าลดลง 12.1% แตะระดับ 6.427 แสนล้านดอลลาร์ ส่งผลให้เกาหลีใต้ขาดดุลการค้าในปี 2566 ทั้งสิ้น 9.97 พันล้านดอลลาร์
ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันพัฒนาเกาหลีใต้คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้มีแนวโน้มฟื้นตัวในปี 2567 โดยได้แรงหนุจากการส่งออกที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ก็กังวลว่าภาวะอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน และเงินเฟ้อที่สูงขึ้นนั้น อาจจะขัดขวางการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และส่งผลให้อุปสงค์ภายในประเทศของเกาหลีใต้อ่อนแอลงด้วย
เกาหลีใต้เผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจหลายด้านในปี 2566 ซึ่งเกิดจากการที่เศรษฐกิจโลกตกต่ำอันมีสาเหตุมาจากนโยบายคุมเข้มด้านการเงินเชิงรุกของประเทศรายใหญ่รวมถึงสหรัฐ นอกจากนี้ เศรษฐกิจโลกยังถูกกระทบจากความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ อันเนื่องมาจากความขัดแย้งในตะวันออกกลางและสงครามรัสเซีย-ยูเครน
องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) คาดว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้จะขยายตัว 2.3% ในปี 2567 ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้จะขยายตัว 2.3% ในปี 2567 เช่นกัน