สถาบันสถิติของตุรกีเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (3 ม.ค.) ว่า เมื่อเทียบรายปี อัตราเงินเฟ้อของตุรกีพุ่งสูงถึง 64.77% ในเดือนธ.ค. 2566 ซึ่งเป็นแนวโน้มขาขึ้นที่คาดว่าจะคงอยู่ต่อไปในอีกหลายเดือนข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอย่างมาก
เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของตุรกีอยู่ที่ 2.93% ในเดือนธ.ค. ลดลงเล็กน้อยจาก 3.28% ในเดือนพ.ย.
เมื่อพิจารณาตามภาคธุรกิจ ภาคที่ราคาปรับขึ้นสูงสุดในปี 2566 คือ โรงแรมและร้านอาหาร (เพิ่มขึ้น 93.2%) รองลงมาคือภาคการศึกษา (82.1%) และภาคอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (72.0%)
เพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูง ธนาคารกลางตุรกีจึงได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างมีนัยสำคัญเป็น 42.5% มาตั้งแต่เดือนมิ.ย.
อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. สำหรับปี 2567 เพิ่มขึ้น 49% มาอยู่ที่ 17,002 ลีราตุรกี (578.31 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อเดือนซึ่งส่งผลกระทบต่อแรงงานประมาณ 7 ล้านคนนั้น คาดว่าจะยิ่งกระตุ้นเงินเฟ้อให้สูงขึ้น
อนึ่ง เงินเฟ้อตุรกีทะยานขึ้นหลังเกิดวิกฤตค่าเงินในช่วงสิ้นปี 2564 ก่อนพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 24 ปีที่ 85.51% ในเดือนต.ค. 2565 ขณะที่ในปี 2566 สกุลเงินลีราตุรกีอ่อนค่าลงแล้วประมาณ 37%
นอกจากนี้ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในประเทศยังปรับตัวขึ้น 1.14% ในเดือนธ.ค.เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 44.22% เมื่อเทียบรายปี