รายได้ในไตรมาส 4/2566 ของบริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง โค (TSMC) สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากอุปสงค์จากกลุ่มธุรกิจด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ช่วยชดเชยยอดขายชิปสมาร์ตโฟนและแล็ปท็อปที่ซบเซาลง
TSMC ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิปรายสำคัญของแอปเปิ้ลและอินวิเดีย (Nvidia) รายงานยอดขายในเดือนธ.ค.ที่ 1.763 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (5.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และยอดขายไตรมาส 4/2566 ที่ 6.255 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ ซึ่งเทียบเท่ากับรายได้จากช่วงเวลาเดียวกันของเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในผลประกอบการรายไตรมาสที่สูงที่สุดของ TSMC ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยอดขายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 จะอยู่ที่ 6.162 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่
ขณะที่ ตลอดทั้งปี 2566 ซึ่งเป็นปีที่ TSMC พิจารณาลดแผนการใช้จ่ายด้านเงินทุนและส่งสัญญาณว่าความต้องการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้บริโภคตกต่ำลงในช่วงฤดูร้อน ทำให้รายได้ลดลง 4.5% สู่ระดับ 2.16 ล้านล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่
บรรดาผู้บริหาร ซึ่งรวมถึงนายซี.ซี. เว่ย ประธานกรรมการบริหารของ TSMC กล่าวระหว่างการประชุมผู้บริหารระดับสูงว่า เหล่าผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และซัพพลายเออร์ชิปเริ่มต้นปีที่แล้วด้วยการดิ้นรนระบายสินค้าที่ขายไม่ได้ในคลัง หลังจากที่กักตุนไว้ในช่วงที่ชิปเซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลนระหว่างการแพร่ระบาดของโควิด-19
ขณะเดียวกัน บริษัทเล็งเห็นว่า รายได้ของธุรกิจด้านการประมวลผลประสิทธิภาพสูง (HPC) ได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์สำหรับชิป AI ของอินวิเดียและแอดวานซ์ ไมโคร ดีไวซ์ (AMD)
ด้านแอปเปิ้ล ซึ่งเป็นลูกค้ารายสำคัญที่สุดของ TSMC ได้เผชิญกับอุปสรรคต่าง ๆ เกี่ยวกับ iPhone รุ่นล่าสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจีน ซึ่งเป็นตลาดโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยนักวิเคราะห์หลายคนปรับลดอันดับความน่าลงทุนของแอปเปิ้ลลงในปีนี้เนื่องจากคาดการณ์ว่าอุปสงค์จะชะลอตัวลง และในสัปดาห์นี้ บริษัทเจฟเฟอร์รีส์ กล่าวว่า ยอดขาย iPhone ที่ซบเซาลงในจีนมีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ ทางบริษัทยังได้รับผลกระทบจากการขยายมาตรการคว่ำบาตรของหน่วยงานต่าง ๆ ในจีนและบริษัทของรัฐบาลจีน ที่สั่งให้พนักงานเก็บ iPhone และอุปกรณ์ต่างประเทศอื่น ๆ ให้ห่างไกลจากสถานที่ทำงาน