สมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีน (CAAM) เปิดเผยวันนี้ (11 ม.ค.) ว่า การผลิตรถยนต์จีนเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2566 โดยได้รับอานิสงส์จากการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นและการขนส่งไปยังรัสเซียเพื่อเติมเต็มช่องว่างที่เกิดจากถอนตัวของบรรดาผู้ผลิตในประเทศฝั่งตะวันตก
รายงานระบุว่า เหล่าผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศผลิตรถยนต์ได้ 30.16 ล้านคันเมื่อปีที่แล้ว และการส่งมอบแบบขายส่ง ซึ่งรวมถึงการส่งออกไปยังตัวแทนจำหน่ายพุ่งขึ้นสู่ระดับ 30 ล้านคัน โดยตัวเลขทั้งสองล้วนสูงกว่าสถิติก่อนหน้านี้ในปี 2560 ขณะที่ยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 58% สู่ระดับ 4.91 ล้านคัน
เฉิน จื้อหัว รองเลขาธิการของ CAAM กล่าวว่า "การลดราคาส่งผลอย่างมากต่อตลาดและการฟื้นตัวของการอุปโภคบริโภครถยนต์ที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ ตลาดรถยนต์ทำผลงานได้ดีกว่าที่คาดไว้ในช่วงปลายปี และปริมาณการผลิตและการค้าส่งสามารถทำลายสถิติเก่าลงได้"
ทั้งนี้ รัสเซียเป็นจุดหมายปลายทางอันดับ 1 ของการส่งออกรถยนต์จีนในปี 2566 โดยได้รับรถยนต์ไปมากกว่า 841,000 คัน ในช่วง 11 เดือนแรกของปี ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่างเม็กซิโกกว่าเท่าตัว โดยบรรดาผู้ผลิตรถยนต์จีนใช้ประโยชน์จากการถอนตัวของบริษัทต่าง ๆ เช่น โฟล์คสวาเกนและโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป หลังจากที่รัสเซียบุกยูเครนในช่วงต้นปี 2565
อย่างไรก็ตาม ฉู ไห่ตง รองหัวหน้าฝ่ายวิศวกรของ CAAM กล่าวว่า แรงขับเคลื่อนด้านการส่งออกของจีนอาจเผชิญอุปสรรคในปีนี้ เนื่องจากการสนับสนุนจากรัสเซียจะไม่เกิดขึ้นอีกครั้งในช่วงเวลาที่ตลาดในประเทศมีเสถียรภาพ สหภาพยุโรปออกมาตรการสอบสวนการจ่ายเงินอุดหนุนแก่รถยนต์ไฟฟ้าของจีน และบางประเทศ เช่น สหรัฐกำลังพิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้า
ทั้งนี้ บริษัทเอสเอไอซี มอเตอร์ (SAIC Motor) ยังคงเป็นผู้ส่งออกรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของจีน ขณะที่บริษัทเฌอรี่ ออโตโมบิล (Chery Automobile) ตามมาเป็นอันดับ 2 โดยได้รับแรงหนุนจากการส่งออกไปยังรัสเซีย ส่วนบริษัทเจ้อเจียง จีลี่ โฮลดิ้ง กรุ๊ป (Zhejiang Geely Holding Group) และบริษัทฉงชิ่ง ฉางอัน ออโตโมบิล จำกัด (Chongqing Changan Automobile) คว้าอันดับที่ 3 และ 4 ตามลำดับ