สำนักงานสถิติแห่งชาติ (ONS) รายงานข้อมูลในวันนี้ (12 ม.ค.) ว่า เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหราชอาณาจักรขยายตัว 0.3% ในเดือนพ.ย. หลังจากลดลง 0.3% ในเดือนต.ค. ดีกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์จากผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่คาดว่าจะขยายตัว 0.2%
เมื่อเทียบเป็นรายปี GDP ของสหราชอาณาจักรขยายตัว 0.2% ในเดือนพ.ย. และเติบโตจากปี 2562 เพียง 2.5%
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบเป็นช่วงสามเดือนจนถึงสิ้นเดือนพ.ย. GDP หดตัวลง 0.2% หนักกว่าที่โพลคาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 0.1%
ONS กล่าวว่า การหดตัวหรือแม้กระทั่ง GDP ที่คงที่ในเดือนธ.ค. อาจนำไปสู่การลดลงของ GDP เป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค แม้ว่าจะเป็นภาวะถดถอยที่ไม่รุนแรงมากก็ตาม
นายแกรนท์ ฟิทซ์เนอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ONS กล่าวว่า "ภาพระยะยาวคือยังคงเป็นเศรษฐกิจที่เติบโตเพียงเล็กน้อยในปีที่ผ่านมา"
"อย่างไรก็ตาม GDP ฟื้นตัวขึ้นในเดือนพ.ย. นำโดยภาคบริการ ซึ่งบริษัทค้าปลีก บริษัทให้เช่ารถยนต์ และบริษัทเกมคอมพิวเตอร์ต่างก็มีเดือนที่คึกคัก"
ทั้งนี้ เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรมีปัญหาในการสร้างโมเมนตัมในปีที่แล้ว เนื่องจากครัวเรือนได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเร็วและอัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ที่สูงที่สุดในรอบ 15 ปี
เมื่อเดือนพ.ย. 2566 สำนักงานรับผิดชอบงบประมาณของรัฐบาลอังกฤษ (OBR) คาดการณ์ว่า GDP จะเติบโต 0.6% ในปี 2566 และ 0.7% ในปี 2567 ซึ่งจะส่งผลเสียต่อนายกฯ ซูนัคที่คาดว่าจะจัดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์บางรายมองว่า GDP มีโอกาสที่จะเติบโตมากขึ้นในปีนี้มากกว่าที่ OBR หรือ BoE คาดการณ์ไว้ โดยภาวะเงินเฟ้อลดลงต่ำกว่า 4% ในเดือนพ.ย. และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านลดลงเนื่องจากผู้ปล่อยกู้คาดว่า BoE จะลดต้นทุนการกู้ยืมในภายหลังในปีนี้