ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ (16 ม.ค.) ว่า ดัชนีราคาสินค้าผู้ประกอบการ (CGPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดราคาสินค้าและบริการที่สั่งซื้อโดยบริษัทญี่ปุ่นและเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากภาคค้าส่ง ไม่มีการเปลี่ยนแปลง (0.0%) ในเดือนธ.ค. 2566 เมื่อเทียบรายปี ขณะที่ตลาดคาดไว้ว่าอาจลดลง 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย.
ตัวเลขดังกล่าวถือเป็นระดับ CGPI ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2564 ที่ลดลง 0.9% และนับเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกันแล้วที่ CGPI ชะลอตัว
ข้อมูลนี้บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อฝั่งผู้บริโภคอาจไม่เพิ่มขึ้นมากนักในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ทำให้ BOJ ไม่จำเป็นต้องรีบทยอยยุติมาตรการกระตุ้นทางการเงินครั้งใหญ่ นอกจากนี้ ยังตอกย้ำมุมมองของ BOJ ที่ว่า แรงกดดันด้านต้นทุนจากราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นจะค่อย ๆ ลดลง
เจ้าหน้าที่ BOJ แถลงบรรยายสรุปว่า การชะลอตัวของราคาค้าส่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการอุดหนุนของรัฐบาลในการควบคุมราคาน้ำมันและค่าน้ำค่าไฟ ซึ่งส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อจากราคาค้าส่งลดลง 0.9%
ด้านราคาเหล็ก เคมีภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ไม้ก็ลดลงในเดือนธ.ค.เช่นกัน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกที่ลดลงกำลังส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบสำหรับบริษัทต่าง ๆ ลดลง
อย่างไรก็ตาม ประมาณ 80% ของรายการสินค้าในดัชนีมีราคาสูงขึ้นจากระดับปีก่อน เป็นการตอกย้ำถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในวงกว้างมากขึ้น ซึ่งอาจช่วยให้ BOJ บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2%
ทั้งนี้ ข้อมูลราคาค้าส่งถือเป็นตัวบ่งชี้ล่วงหน้าของอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภค และเป็นปัจจัยหนึ่งที่ BOJ นำมาพิจารณาเพื่อประเมินแนวโน้มราคาสินค้าในวงกว้าง และเพื่อใช้ตัดสินใจเกี่ยวกับช่วงเวลาที่จะยุตินโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษ