สำนักงานคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (18 ม.ค.) ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของญี่ปุ่นลดลง 4.9% ในเดือนพ.ย. 2566 เมื่อเทียบรายเดือน มากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์คาดไว้ว่าอาจลดลงเพียง 0.8%
เมื่อเทียบเป็นรายปี ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานซึ่งไม่นับรวมยอดสั่งซื้อจากอุตสาหกรรมการขนส่งและสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้า ปรับตัวลง 5.0% ในเดือนพ.ย. สวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าอาจเพิ่มขึ้น 0.2%
ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของญี่ปุ่นซึ่งมีความผันผวนสูงและถือเป็นตัวบ่งชี้การใช้จ่ายด้านการลงทุนในอีก 6-9 เดือนข้างหน้า สะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้น
เมื่อพิจารณาเป็นรายภาคส่วน ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานจากกลุ่มผู้ผลิตลดลง 7.8% ในเดือนพ.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค. โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเครื่องจักรการผลิตอเนกประสงค์
ส่วนยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานจากภาคบริการลดลง 0.4% ในเดือนพ.ย. หลังปรับขึ้น 1.2% ในเดือนต.ค. โดยถูกฉุดจากยอดสั่งซื้อที่ลดลงจากภาคการเงินและประกันภัย
ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลยังคงมองว่ายอดสั่งซื้อเครื่องจักร "หยุดชะงัก" มาเป็นเวลา 13 เดือนติดต่อกัน
นอกจากนี้ ผลสำรวจรอยเตอร์ ทังกัน (Reuters Tankan) ที่เปิดเผยเมื่อวานนี้ (17 ม.ค.) ระบุว่า กลุ่มผู้ผลิตญี่ปุ่นส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นทางธุรกิจลดลงจากระดับ +12 ในเดือนธ.ค. 2566 มาอยู่ที่ +6 ในเดือนม.ค. 2567 โดยถือเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลเกี่ยวกับการลดลงของดีมานด์จากจีนและตลาดอื่น ๆ