สำนักงานสถิติมาเลเซียรายงานในวันนี้ (19 ม.ค.) ว่า เศรษฐกิจไตรมาส 4/2566 (เดือนต.ค.-ธ.ค.) ของมาเลเซียขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ เนื่องจากยอดส่งออกไปยังประเทศจีนปรับตัวลดลง ซึ่งส่งสัญญาณว่าจะต้องใช้เวลานานกว่าที่เคยคาดการณ์เอาไว้ กว่าที่เศรษฐกิจมาเลเซียจะฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 4/2566 ขยายตัวขึ้น 3.4% จากปีก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์เฉลี่ยของสำนักข่าวบลูมเบิร์กที่การขยายตัว 4.1%
สำหรับตลอดทั้งปี 2566 เศรษฐกิจมาเลเซียขยายตัว 3.8% ซึ่งต่ำกว่าการประมาณการของธนาคารกลางมาเลเซียที่การขยายตัวประมาณ 4% ในปี 2566 โดยมาเลเซียจะเปิดเผยตัวเลข GDP ขั้นสุดท้ายในวันที่ 16 ก.พ.
รายงานระบุว่า ภาคการก่อสร้างที่ชะลอตัวและกิจกรรมภาคการผลิตที่ซบเซาถ่วงเศรษฐกิจมาเลเซีย โดยภาคก่อสร้างขยายตัวลดลงที่ 2.5% ในไตรมาส 4/2566 จากการขยายตัวที่ 7.2% ในไตรมาส 3/2566 ส่วนภาคการผลิตเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในไตรมาส 4/2566
กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมระหว่างประเทศของมาเลเซียระบุในวันนี้ว่า มาเลเซียกำลังต่อสู้กับยอดส่งออกที่ลดลง ซึ่งได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนที่กำลังชะลอตัว โดยยอดส่งออกไปจีนปรับตัวลดลง 1.5% ซึ่งจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของมาเลเซีย
"อุปสงค์ที่อ่อนแอจากต่างประเทศถือเป็นเหตุผลหลักที่ชะลอการขยายตัวของเศรษฐกิจมาเลเซียในปี 2566 โดยเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงของจีนมีบทบาทสำคัญ" นายโมห์ด อัฟซานิแซม อับดุล ราชิดจากธนาคารแบงก์ มูอามาลัต มาเลเซีย บีเอชดีระบุ พร้อมกล่าวเสริมว่า "ปี 2567 ยังเป็นปีที่ต้องระมัดระวังตัว"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ค่าเงินริงกิตของมาเลเซียลดช่วงบวกจากการซื้อขายช่วงแรกสู่เคลื่อนไหวเล็กน้อยที่ 4.7178 ริงกิตต่อดอลลาร์สหรัฐ หลังมาเลเซียเปิดเผยตัวเลข GDP ที่น่าผิดหวัง