ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของออสเตรเลียปรับตัวลงต่อเนื่องในเดือนธ.ค. 2566 โดยภาคการผลิตและก่อสร้างชะลอตัวลง แต่แรงกดดันด้านราคาสินค้าลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการชะลอตัวของเงินเฟ้อ
ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยเนชันแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB) ระบุว่า ดัชนีภาวะธุรกิจลดลง 2 จุด สู่ระดับ +7 ในเดือนธ.ค. แม้ว่าจะยังคงอยู่เหนือค่าเฉลี่ยระยะยาวเล็กน้อย
ขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นทางธุรกิจปรับตัวขึ้น 7 จุด สู่ระดับ -1 ในเดือนธ.ค. นำโดยการฟื้นตัวของภาคเหมืองแร่และภาคค้าปลีก
ด้านมาตรวัดยอดขายของภาคธุรกิจของ NAB ลดลง 3 จุด สู่ระดับ +10 ในเดือนธ.ค. ซึ่งถือว่ายังคงอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง ขณะที่ความสามารถในการทำกำไรยังคงอยู่ที่ระดับ +6 ส่วนการจ้างงานลดลง 1 จุด สู่ระดับ +7 และอัตราการใช้กำลังการผลิตลดลงจาก 83.6% สู่ระดับ 82.7%
นอกจากนี้ มาตรวัดต้นทุนแรงงานและการผลิตลดลงหลังจากพุ่งขึ้นในเดือนพ.ย. โดยการเติบโตของราคาค้าปลีกรายไตรมาสร่วงลงมาอยู่ที่ 0.6% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2563 จาก 1.8% ในเดือนพ.ย.
นายอลัน ออสเตอร์ หัวหน้าคณะนักเศรษฐศาสตร์ของ NAB กล่าวว่า "ที่ข้อมูลออกมาแบบนี้คาดว่าเป็นผลมาจากแคมเปญลดราคาช่วงแบล็กฟรายเดย์และคริสต์มาส แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังเป็นสัญญาณที่ดีว่าเงินเฟ้ออาจชะลอตัวลงในช่วงปลายไตรมาส"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ข้อมูลดังกล่าวจะสร้างความสบายใจให้กับธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ซึ่งได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับสูงสุดในรอบ 12 ปีที่ 4.35% เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของออสเตรเลียปรับตัวขึ้น 5.4% ในไตรมาสก.ค.-ก.ย. 2566 อย่างไรก็ดี ดัชนี CPI ในช่วง 12 เดือนจนถึงเดือนพ.ย. 2566 ชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 4.3%