สถาบัน Gfk และสถาบันนูเรมเบิร์กเพื่อการตัดสินใจด้านตลาด (NIM) เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ (26 ม.ค.) ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเยอรมนีดิ่งลงแรงในเดือนก.พ. เนื่องจากภาคครัวเรือนยังคงเตรียมรับมือกับความไม่แน่นอน
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมนีในเดือนก.พ. ลดลงมาอยู่ที่ -29.7 จาก -25.4 ในเดือนม.ค. แย่กว่าที่นักวิเคราะห์ในผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่าดัชนีจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ -24.5
อนึ่ง ตัวเลขติดลบหมายความว่า ผู้บริโภคที่มีมุมมองเชิงลบมีมากกว่าผู้ที่มีมุมมองเชิงบวก
ความเต็มใจในการออมของผู้บริโภคพุ่งสูงขึ้นในช่วงต้นปีจนแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2551 ซึ่งส่งผลให้ความเชื่อมั่นในภาพรวมลดลง โดยความคาดหวังด้านรายได้และแนวโน้มการซื้อก็มีส่วนทำให้ดัชนีลดลงเช่นกัน
ผลสำรวจระบุว่า สิ่งที่ขัดขวางการปรับปรุงภาวะเศรษฐกิจในระยะยาวก็คือวิกฤตการณ์และสงครามต่าง ๆ รวมถึงเงินเฟ้อที่สูงอย่างต่อเนื่อง
ตัวชี้วัด "ความเต็มใจในการซื้อ" ในเดือนก.พ.อยู่ที่ -14.8 ลดลงจากระดับ -8.8 ในเดือนม.ค. โดยดัชนีดังกล่าวแสดงถึงความแตกต่างระหว่างคำตอบเชิงบวกและเชิงลบต่อคำถามที่ว่า "คุณคิดว่าตอนนี้เป็นเวลาที่ดีในการซื้อของชิ้นใหญ่ ๆ หรือไม่"
ดัชนีความคาดหวังด้านรายได้ในเดือนก.พ.อยู่ที่ -20.0 ลดลงจากระดับ -6.9 ในเดือนม.ค. โดยดัชนีดังกล่าวสะท้อนถึงความคาดหวังเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสถานะทางการเงินของครัวเรือนในอีก 12 เดือนข้างหน้า
นอกจากนี้ ดัชนีความคาดหวังวัฏจักรธุรกิจในเดือนก.พ.อยู่ที่ -6.6 ลดลงจากระดับ -0.4 ในเดือนม.ค. โดยดัชนีดังกล่าวแสดงถึงการประเมินของผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโดยทั่วไปในอีก 12 เดือนข้างหน้า
อนึ่ง ผลสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นตั้งแต่วันที่ 4-15 ม.ค. 2567 โดยสำรวจผู้บริโภคประมาณ 2,000 คน
นายรอล์ฟ เบอร์เคิล ผู้เชี่ยวชาญด้านผู้บริโภคของ NIM กล่าวว่า "หากเคยมีความหวังใด ๆ ว่าความเชื่อมั่นจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน ความหวังเหล่านั้นก็พังทลายลงในเดือนม.ค. ... ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคประสบกับความถดถอยอย่างรุนแรงในช่วงต้นปี"