สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค. 2566 ร่วงลง 2.7% ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 1.7% และเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดในรอบ 1 ปี
ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคในออสเตรเลียอ่อนแอลงในช่วงปลายปี 2566 และสวนทางกับในเดือนพ.ย.ที่ยอดค้าปลีกดีดตัวขึ้น 1.6% เนื่องจากในเวลานั้นผู้บริโภคแห่ซื้อสินค้าลดราคาในช่วงเทศกาลแบล็กฟรายเดย์ (Black Friday)
ทั้งนี้ การร่วงลงของยอดค้าปลีกในเดือนธ.ค.ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลออสเตรเลียประเภท 3 ปีปรับตัวขึ้นแตะระดับ 3.71% ในวันนี้ โดยอัตราผลตอบแทนประเภทดังกล่าวมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางออสเตรเลีย
เบน ดอร์เบอร์ หัวหน้านักสถิติของ ABS กล่าวว่า "ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.ปรับตัวลดลงมากกว่าคาด เนื่องจากผู้บริโภคลดการใช้จ่ายและมีความกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น ส่วนยอดค้าปลีกในเดือนพ.ย.ที่ปรับตัวสูงขึ้นนั้น เนื่องจากผู้บริโภคแห่ซื้อสินค้าลดราคาในช่วงเทศกาลแบล็กฟรายเดย์ ซึ่งบริษัทหลายแห่งเสนอโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมในช่วงเวลาดังกล่าว
ยอดค้าปลีกเป็นหนึ่งในข้อมูลสำคัญที่ธนาคารกลางออสเตรเลียใช้ประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน โดยการประชุมครั้งต่อไปของธนาคารกลางจะมีขึ้นในวันที่ 5-6 ก.พ.นี้ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกของปี 2567
ส่วนในการประชุมเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมานั้น ธนาคารกลางออสเตรเลียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.35% พร้อมกับส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางอาจจะใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ