สำนักงานสถิติเกาหลีเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (31 ม.ค.) ว่า ในปี 2566 ผลผลิตในภาคการผลิตของเกาหลีใต้ร่วงลงมากที่สุดในรอบ 25 ปี โดยสาเหตุหลักมาจากดีมานด์เซมิคอนดักเตอร์ลดลงท่ามกลางภาวะชะลอตัวของอุตสาหกรรม ขณะเดียวกัน ยอดค้าปลีกและการลงทุนก็ร่วงลงในปีที่แล้วเช่นกัน ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่สูงและภาวะเงินเฟ้อ ตลอดจนความกังวลเกี่ยวกับดีมานด์ภายในประเทศที่อ่อนแอ
สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า เมื่อดูตลอดทั้งปี 2566 มูลค่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมเพิ่มขึ้น 0.7% จากปีก่อนหน้า เป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 3 แม้ว่าอัตราการเติบโตจะชะลอตัวลงจากระดับ 4.6% ในปี 2565 โดยการเพิ่มขึ้นในปีที่แล้วเกิดขึ้นเนื่องจากผลผลิตจากภาคบริการเติบโต 2.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี
อย่างไรก็ตาม ผลผลิตในภาคการผลิตร่วงลง 3.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ถือเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2541 ซึ่งเป็นช่วงที่เกาหลีใต้เผชิญกับวิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย สาเหตุการลดลงนี้ส่วนใหญ่เกิดจากดีมานด์เซมิคอนดักเตอร์ที่อ่อนแอ โดยผลผลิตเซมิคอนดักเตอร์ลดลง 5.3% ในปี 2566 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2544
เมื่อดูเฉพาะเดือนธ.ค. ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายเดือนครั้งที่สอง และเพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากภาคเซมิคอนดักเตอร์มีผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ถึง 53.3% ซึ่งเป็นสัญญาณว่าอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์อาจเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว
เมื่อดูตลอดทั้งปี 2566 ยอดค้าปลีก ซึ่งเป็นตัวชี้วัดการใช้จ่ายภาคเอกชน ลดลง 1.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากยอดขายอาหารและสินค้าไม่คงทนอื่น ๆ ลดลงท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อสูง ถือเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2546
เมื่อดูเฉพาะเดือนธ.ค. ยอดค้าปลีกลดลง 0.8% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และลดลง 2.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี
นอกจากนี้ เมื่อดูตลอดทั้งปี 2566 การลงทุนในสิ่งอำนวยความสะดวกร่วงลง 5.5% ท่ามกลางภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซา นับเป็นการลดลงที่รุนแรงที่สุดในรอบ 4 ปี
เมื่อดูเฉพาะเดือนธ.ค. การลงทุนในสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้น 5.5% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน แต่ลดลง 5.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี