โร โมชัน (Rho Motion) บริษัทวิจัยตลาดของอังกฤษ เปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (14 ก.พ.) ว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 69% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ลดลง 26% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน เนื่องจากยอดขายในเยอรมนีและฝรั่งเศสลดลงเพราะรัฐตัดเงินอุดหนุนหรือกำหนดกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดมากขึ้น ขณะที่ยอดขายในจีนลดลงก่อนเทศกาลตรุษจีน
ข้อมูลระบุว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) และรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) แตะที่ระดับ 1.1 ล้านคันในเดือนม.ค. 2567 เพิ่มขึ้นจาก 660,000 คันในเดือนม.ค. 2566
นายชาร์ลส์ เลสเตอร์ ผู้จัดการฝ่ายข้อมูลของโร โมชัน เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในเยอรมนีและฝรั่งเศสลดลงประมาณ 50% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบกับเดือนธ.ค. เนื่องจากเยอรมนีตัดเงินอุดหนุน และฝรั่งเศสออกกฎการให้เงินอุดหนุนที่เข้มงวดกว่าเดิม
อย่างไรก็ดี มาตรการใหม่ของสหภาพยุโรป (EU) ในการจำกัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในปี 2568 จะช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบและรถยนต์ไฮบริด
รายงานระบุว่า เมื่อเทียบเป็นรายปี ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเพิ่มขึ้น 41% ในเดือนม.ค. ส่วนยอดขายในจีนเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า ขณะที่ยอดขายในสหภาพยุโรป (EU) สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) และสหราชอาณาจักร เพิ่มขึ้น 29%
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาลดลง 14% ส่วนยอดขายในจีนลดลง 26% และยอดขายในยุโรปลดลง 32%