สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ยุโรป (ACEA) รายงานในวันนี้ (20 ก.พ.) ว่า ยอดขายรถยนต์ในยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนม.ค. โดยได้รับอานิสงส์จากอุปสงค์รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ฟื้นตัวขึ้น
ACEA เปิดเผยว่า ยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่เพิ่มขึ้น 11% แตะ 1.02 ล้านคันในเดือนม.ค. โดยรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบคิดเป็นสัดส่วน 11.9% ของทั้งหมด เพิ่มขึ้นจาก 10.3% ในปีที่แล้ว ขณะที่ค่ายรถต่างพยายามกระตุ้นยอดขายท่ามกลางสงครามราคาที่รุนแรง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า แม้ว่าผู้ผลิตรถยนต์จะได้ประโยชน์จากยอดสั่งซื้อที่แข็งแกร่ง แต่การฟื้นตัวสู่ระดับก่อนโควิดระบาดนั้นคาดว่าจะเผชิญความท้าทายมากขึ้นในปีนี้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในตลาดหลัก ได้แก่ เยอรมนี สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป รวมถึงการที่ผู้บริโภคต้องเผชิญกับต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น
ไมเคิล ดีน และ จิลเลียน เดวิส นักวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ (Bloomberg Intelligence) ระบุว่า แนวโน้มที่อุปสงค์มีมากกว่าอุปทาน ซึ่งส่งผลให้ราคาและอัตรากำไรสูงขึ้นนั้น ดำเนินมาตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2563 แต่ตอนนี้แนวโน้มดังกล่าวกำลังพลิกผัน ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงที่สำคัญของอุตสาหกรรมในปีนี้ เนื่องจากการผลิตรถยนต์กลับสู่ภาวะปกติแต่คำสั่งซื้อลดลง