สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีเปิดเผยในวันนี้ (8 มี.ค.) ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีในเดือนม.ค. 2567 ปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน
ทั้งนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีในเดือนม.ค.ปรับตัวขึ้น 1.0% เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่ม 0.6% และพลิกกลับจากของเดือนธ.ค. 2566 ที่ร่วงลงเกินคาดถึง 2.0%
การปรับตัวขึ้นดังกล่าวนำโดยภาคก่อสร้าง โดยภายในภาคการผลิต ภาคเคมีภัณฑ์ ภาคอาหาร และภาคเครื่องจักร ล้วนมีผลผลิตเพิ่มขึ้น แต่ภาคผู้ผลิตรถยนต์กลับมีผลผลิตลดลงอย่างมาก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ระดับการผลิตโดยรวมยังคงใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ภาคการผลิตของเยอรมนีพยายามจะสลัดออกจากภาวะชะลอตัวที่ยืดเยื้อ โดยข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ (7 มี.ค.) แสดงให้เห็นว่าคำสั่งซื้อโรงงานของเยอรมนีลดลงอย่างมากในเดือนม.ค. พลิกจากที่เพิ่มขึ้นในเดือนธ.ค.
ทั้งนี้ เยอรมนีเป็นประเทศเดียวในกลุ่ม G7 ที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ลดลงในปี 2566 โดยผลงานที่ย่ำแย่ของประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปแห่งนี้ได้ฉุดเศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซนไปด้วย
ด้านธนาคารกลางเยอรมนีเตือนว่า เศรษฐกิจของประเทศอาจเข้าสู่ภาวะหดตัวในไตรมาสแรกของปีนี้ หลังจากที่ GDP ลดลง 0.3% ในช่วงไตรมาสต.ค.-ธ.ค. 2566 ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง ก็จะถือเป็นภาวะถดถอยครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดโควิด-19 แม้ธนาคารกลางคาดว่าจะเป็นการถดถอยไม่รุนแรงก็ตาม
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา นักเศรษฐศาสตร์หลายเจ้าได้พากันปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจของเยอรมนี โดย DIW คาดการณ์เมื่อวานนี้ว่า เยอรมนีจะไม่มีการเติบโตเลยในปี 2567 ในทำนองเดียวกัน รัฐบาลก็ได้หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้ลงเหลือแค่โต 0.2% จากเดิม 1.3%